ตำรวจระยอง ตามล่า หลังมีรายงานว่า แก๊งกินหมา อาจกลับมาอาละวาด ชาวบ้านเผยหมาหายนับสิบกว่าตัว วอนอย่าทำกับหมาเลย หมาก็มีจิตใจ ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความลงกลุ่มเฟซบุ๊ก เตือนภัยระยอง ระบุว่า “แจ้งเตือน! ขณะนี้แถวตลาดลาว มาบตาพุด มีหมาหายจำนวนมาก ทั้งหมาจร หมาชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นอะไรผิดสังเกตแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยครับ ขอบคุณครับ”
โดยสำนักข่าว ช่อง 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดย น.ส.พัณณิตา อายุ 33 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้วัย 10 เดือน ได้หายไปตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ทิ้งให้แม่หมาเฝ้ารอ รวมถึงตัวเธอด้วย ซึ่งเธอได้เปิดเผยอีกว่า ณ ขณะนี้หมาในแถบบริเวณถนนหน้าตลาดและหมาในหมู่บ้านละแวกติดกัน หายรวมกันแล้วรวม 10 ตัว ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน จนทำให้เชื่อว่าแก๊งกินหมาออกมาอาละวาดอีกแล้ว จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.มาบตาพุด ในวันนี้
ขณะเดียวกันแม่ค้าส้มตำ ร้านติดกันยังเล่าว่า ในวันนี้ลูกค้ามาซื้อส้มตำเล่าว่าหมาพันธุ์ของเธอตัวหลักหมื่นบาท หายไป จนทำให้ตนเองเชื่อว่าแก๊งกินหมาออกมาอาละวาดอีกครั้งแล้ว ซึ่งจากการสอบถามของสำนักข่าวช่อง 3 ก็พบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มาบตาพุด ได้รับแจ้งความไว้ ก่อนประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวในข้อเท็จจริงตามคำให้การ เพื่อติดตามหาตัวแก๊งกินหมามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อมูลเหตุจูงใจกรณี ฆ่ายัดกล่อง เตรียมสอบสวนเพิ่ม พบผู้ต้องหาเสพยาก่อนก่อเหตุ พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าถึงกรณี ฆ่ายัดกล่อง คดีฆาตกรรมโหดที่ นายธนากร อรัญทอง อายุ 19 ปี หลังก่อเหตุแล้วนำกล่องพลาสติกใส่ศพหญิงอายุ 18 ปี ไปทิ้งไว้ในพงหญ้า ในจังหวัดสุพรรณบุรี
โดย พล.ต.ท. ธนายุตม์ ระบุว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนมูลเหตุใจในการก่อเหตุตามที่ผู้ต้องหาได้ให้การไปก่อนหน้านี้ ที่อ้างว่าแอบคบหากับฝ่ายหญิง แล้วถูกบีบคั้นให้เปิดเผยเรื่องที่คบกัน และรับเลี้ยงดูฉันสามีภรรยา แต่เพราะฝ่ายชายไม่ยอมเพราะมีภรรยาและลูกแล้ว จึงทะเลาะกัน ก่อนใช้มือบีบคอฆ่า
ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนหาสาเหตุและมูลเหตุที่แน่ชัดอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะมีการล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียชีวิตด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่ขอลงรายละเอียด อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม และรอผลชันสูตรอย่างเป็นทางการจากสถาบันนิติเวชฯ ทั้งนี้ ผู้ต้องหายอมรับว่าเสพยาเสพติดก่อนจะลงมือก่อเหตุ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งพบศพผู้หญิงถูกฆ่ายัดกล่อง ทิ้งอยู่ในพงหญ้าหลังบ้านพักคนงานแพลนท์ปูน หมู่ 7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สภาพศพท่อนล่างเปลือยมีรอยเขียวฟกช้ำ ตรวจสอบทราบชื่อคือ น.ส.สุมิตา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องเต็น อายุ 18 ปี
เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยสารภาพว่า ได้แอบคบหากับผู้เสียชีวิต ซึ่งฝ่ายหญิงอยากให้ดูแล แต่ตัวเองมีครอบครัวอยู่แล้ว จนได้มีปากเสียงทะเลาะกัน จึงโมโหได้บีบคอฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปยัดใส่กล่องพลาสติกที่ห้องพักของตัวเอง จากนั้นขอให้เพื่อนคนงานชาวต่างชาติมาช่วยยกกล่องใส่ศพลงมาซ่อนไว้ แล้วหลบหนีไป บ้านภรรยา จ.กาฬสินธุ์
จับแล้วหนึ่ง! นศ. อุเทนถวายยิงปืนขึ้นฟ้า รับยิงบรวงสรวง
นศ. อุเทนถวายยิงปืนขึ้นฟ้า ที่ปรากฏอยู่ในคลิปเมื่อก่อนหน้านี้ ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เผยยิงปืนเพื่อบรวงสรวงองค์พระวิษณุกรรม พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.ร่วมกันจับกุมนาย อภินัทธ์ กูรูเฝียะ อายุ 22 ปี นักศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยิงปืนขึ้นฟ้าภายในรั้วสถาบันอุเทนถวาย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนหน้านี้
โดยจากการสอบปากคำนั้น นาย อภินัทธ์ ให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุ 1 ก.พ.เวลาประมาณ 07.15 น.นักศึกษามีการยืนเข้าแถวบริเวณลานองค์พ่อฯภายในมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เพื่อบวงสรวงองค์พระวิษณุกรรม หลังจากบวงสรวงเสร็จตน ยืนอยู่หน้าสุดของแถวได้ยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวน 3 นัด
เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วเห็นว่ามีการจุดประทัดเพื่อบวงสรวง ปีนี้จึงไปซื้อปืนมาเพื่อใช้ยิงบวงสรวง เมื่อยิงเสร็จแล้วได้กลับไปพักผ่อนตามปกติที่หอพัก ในซอยประชาชื่น 19 และเห็นข่าวในทีวี จึงกลัวว่าจะมีความผิดจึงเอาปืนกระบอกดังกล่าวไปทิ้งแม่น้ำที่บริเวณใต้สะพานพุทธฯ และกลับไปพักอยู่ที่หอพัก 1 คืนแล้ว จึงเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี
ต่อมาทราบจากญาติว่ามีเจ้าพนักงานตำรวจมากดดันติดตามจับกุมตัวอย่างหนัก จึงติดต่อเข้ามอบตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัวเพิ่มเติมอีก 2 ราย โดยที่ไม่มีหมายจับ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบปากคำไว้ และแจ้งข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่ใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากนี้ ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการนัดส่งฟ้องศาลอีกครั้ง ส่วนอีก 50 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบเพื่อดำเนินตามกฎหมาย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป