โฆษกประจำสำนักนายกออกมาเปิดเผยว่า ประยุทธ์ ได้ออกมาสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบปม ถุงมือยางใช้แล้ว หลังถูกสื่อต่างชาติแฉ นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาตอบคำถามถึงกรณีที่สำนักข่าว CNN รายงานว่าพบถึงมือใช้แล้วจำนวนมากถูกส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยนาย ธนกร ระบุว่า นายกรัฐมนตรี
ได้สั่งการตรวจสอบกรณีการส่งถุงมือยางใช้แล้วไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาหรือมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีดูแลอย่างไรบ้าง ว่า นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
สำนักข่าว CNN ได้รายงานว่า จากการสืบสวนของทางสำนักข่าวพบว่ามีถุงมือทางการแพทย์ใช้แล้วหรือถุงมือปลอมกว่า 10 ล้านชิ้นถูกนำส่งมายังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอ้างอิงจากบันทึกการนำเข้าและผู้นำจ่ายสินค้าที่นำถุงมือเข้ามาในประเทศ โดยทางสำนักข่าวอ้างว่าประเทศไทยถึงคือหนึ่งในผู้นำจ่ายถุงมือดังกล่าว
โดยทางสำนักข่าวบรรยายว่าพวกเขาพบถังขยะที่เต็มไปด้วยถุงมือเก่าที่มีสภาพ สกปรก เปื้อนเลือด เต็มโกดังภายในชานเมืองของกรุงเทพ ในบริเวณใกล้เคียงยังพบชามพลาสติกที่ใช้ในการย้อมสีถุงมือให้เป็นสีฟ้า เพื่อพยายามตบตาว่าเป็นถุงมือใหม่ ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกาได้เดินหน้าสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศไทยได้บุกทลายโกดังผลิตถุงมือปลอมเมื่อช่วงเดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ขอเสนอให้รัฐบาล พิจารณาเพิ่ม อินเดีย ลาว อยู่ในบัญชีประเทศที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว
ผมได้เห็นรายชื่อประเทศต่างๆที่รัฐบาล และ ศบค.ประกาศอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไปโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งมีทั้งหมด 46 ประเทศ ก็นับว่าเป็นจำนวนประเทศที่มากพอสมควร แต่สิ่งที่ผมแปลกใจ ก็คือ มีอยู่ 2 ประเทศ ที่ไม่มีรายชื่ออยู่ในรายชื่อ 46 ประเทศ ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย คือ
1.ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมาก เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศคู่ค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เป็นตลาดใหญ่ในการส่งออกสินค้าของไทย เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรมาก มีกำลังซื้อ และการบริโภคที่สูงมาก แต่กลับไม่มีรายชื่ออยู่ใน 46 ประเทศ ผมเองมีเพื่อนเป็น คนเชื้อสายอินเดียหลายคน ซึ่งไม่สามารถตอบคำถามนี้ ต่อเพื่อนเพื่อนได้ว่า ทำไมรัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้คนอินเดีย เดินทางมาประเทศไทยเหมือนกับประเทศอื่นๆ อีก 46 ประเทศ ทั้งที่ในประเทศไทย ก็มีคนไทยเชื้อสายอินเดียที่มีบทบาททางเศรษฐกิจจำนวนไม่น้อย และปริมาณการติดเชื้อโควิด-19ในอินเดีย ก็ลดน้อยลง คนอินเดียส่วนใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีนเกือบหมดทั้งประเทศแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะกีดกันคนอินเดีย ไม่ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
2.ส.ป.ป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ดีมากประเทศหนึ่ง และมียอดผู้ติดเชื้อต่ำมาก ประชากรก็ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากเช่นกัน เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย สามารถติดต่อ เดินทางเข้าออกทางด้านพรมแดน และช่องทางธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย มีวัฒนธรรมประเพณี และภาษาพูดที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่กลับไม่มีอยู่ในรายชื่อ 46 ประเทศ ในขณะเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา กลับมีรายชื่ออยู่ใน 46 ประเทศด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะตอบคำถาม และจะหาเหตุผลอธิบายต่อเพื่อนของเรา ใน2ประเทศนี้ได้อย่างไร
‘อนุทิน’ สั่งระดัม ฉีดวัคซีนภาคใต้ เร่งแก้สถานการณ์
อนุทิน ออกมากล่าวที่ทำเนียบว่า กรมควบคุมโรคได้ส่งวัคซีน เพื่อระดับ ฉีดวัคซีนภาคใต้ เร่งแก้สถานการณ์ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนทั่วประเทศ 70% นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและรองนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กสั่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนในภาคใต้ เร่งแก้สถานการณ์การแพร่ระบาด แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยใหม่ต่อวันจะเริ่มนิ่ง พร้อมตั้งความหวังว่าประเทศไทยจะฉีดวัคซีนเกินร้อยละ 70 ของประชากร
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ การระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัด สงขลา และ จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า
ในส่วนของจังหวัดชายแดน ตัวเลขต่างๆ เริ่มนิ่งแล้ว ที่ผ่านมา ทางกรมควบคุมโรค ได้ส่งวัคซีนเข้าไปในพื้นที่ เพื่อบรรเทา และแก้ไขสถานการณ์ กำชับ ให้เร่งการฉีด เพราะวัคซีน คือ อาวุธสำคัญในการสู้กับโรค และในสัปดาห์นี์ ได้สั่งการ ให้ส่งวัคซีนลงไปเพิ่ม
ตัวอย่างมีให้เห็นจากพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มาถึงจุดนี้ มีราย งานผู้ติดเชื้อเข้ามา แต่ยอดการป่วยหนักและยอดเสียชีวิต ก็ลดน้อยลงเป็นอย่างยิ่ง เราจะมีการระดมวัคซีนลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย ทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องเร่งคลี่คลายสถานการณ์
“ส่วนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เป้าของเราคือ 70% ของประชากร เมื่อถึงตัวเลขนั้นแล้ว ก็พร้อมจะให้บริการต่อไป แต่ต้องขึ้นกับความต้องการของประชาชน เรื่องวัคซีน ได้หามาสำรองไว้แล้ว สำหรับการให้บริการ เน้นที่เรื่องประสิทธิภาพ และความปลอดภัยเป็นหลัก เรามีคณะกรรมการคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชน มารับวัคซีนตามนัดหมาย”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป